Welcome to Udonthani in the world today*..ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่เวบ *อุดรธานี ในโลกวันนี้*

วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

พระธาตุจอมศรี




พระธาตุจอมศรี

พระธาตุจอมศรี (พระธาตุแชแล) ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุจอมศรี บ้านแชแล หมู่ 1 ตำบลแชแล อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี 

พระธาตุจอมศรี ก่อตั้งเมื่อไหร่ ไม่มีหลักฐาน จากคำบอกเล่าของ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมศรี องค์ปัจจุบัน ชื่อ พระครูสุวรรณ ธรรมอาต เล่าว่า 

วัดแห่งนี้เริ่มก่อตั้งพร้อมกับบ้านแชแล ตำบลแชแล โดยมีผู้นำชุมชนชื่อว่า พ่อใหญ่พระโบราณ มาพบ วัดร้างในป่า และมีพระธาตุในบริเวณวัด โดยพระธาตุเก่า สูง 7.8 เมตร กว้าง 4 x 4 เมตร ก่อด้วยหินศิลาแลง ประมาณ ปี พ.ศ. 2420 ถึง 2430 ชาวบ้านจึงบูรณะ โดยสร้างหลังคาครอบองค์พระธาตุ

การบูรณะ พระธาตุจอมศรี ได้รับการบูรณะ 2 ครั้ง คือ

1. ในสมัยของเจ้าอาวาสองค์ที่ ในปี 2475 ได้บูรณะองค์เจดีย์ และโบสถ์ โดยช่างยวน และสร้างศาลาครอบองค์พระธาตุ

2. ในปี พ.ศ. 2536 พระธาตุจอมศรี ชำรุด ยอดเจดีย์เอียง จึงได้บูรณะใหม่ โดยมี พระครูสุวรรณ ธรรมธาดา เป็นเจ้าอาวาสวัด การบูรณะครั้งนี้ ได้ทำก่ออิฐ ปูนครอบพระธาตุองค์เดิม แต่ยังคงรูปร่างขององค์เดิมไว้ ซึ่งในช่วงที่มีการบูรณะพระธาตุ ช่างได้ขุดพบพระพุทธรูป หล่อด้วยเงิน จำนวน 300 - 400 องค์ พระพุทธรูปหุ้มทองคำ 4-5 องค์ และเงินลาดจำนวนมาก แต่ด้วยความศรัทธาของชาวบ้านแถบนั้น จึงขอบูชาไปสักการะจนหมดแล้ว

ลักษณะองค์ประธาตุจอมศรี

พระธาตุจอมศรีเป็นประธาน 4 เหลี่ยม จอมกว้าง 4 x 4 เมตร มีความสูง 7.8 เมตร ลักษณะคล้ายกับพระธาตุบ้านเดียม ตำบลเชียงแหว อำเภอกุมภวาปี และพระธาตุบ้านดอนแก้ว ตำบลกุมภวาปี อำเภอกุมภวาปี 

การก่อสร้างไม่มีหลักฐานว่าสร้างในปีใด แต่วัดแห่งนี้มีเจ้าอาวาสจำพรรษา จำนวน 6 องค์ ได้แก่

1. หลวงพ่อสมดี ไคการสุไน ปี พ.ศ. 2445
2. หลวงพ่อบุญมา ไคการสุโน ปี พ.ศ. 2450
3. หลวงพ่อสีธา ฤทธิมหา ปี พ.ศ. 2500
4. หลวงพ่ออธิการเคน สีละโลโม ปี พ.ศ. 2509 (เจ้าคณะอำเภอ)
5. หลวงพ่อบัว (กิตธรรมโม) สงกรานต์ ปี พ.ศ. 2518
6. พระคูร สุวรรณ ธรรมชาดา จนถึงปัจจุบัน

ความเชื่อ

ชาวบ้านแถบนี้ มีความศรัทธา ความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ในองค์พระธาตุมาก หากลูกหลาน ไปทำงานต่างถิ่น หรือสอบบรรจุเข้าทำงาน จะมาบนบาลต่อองค์พระธาตุ จะสมหวังทุกรายไป และหากผู้ใดมาหลบหลู่ พูดจาดูหมิ่น หรือทำมิดีมิร้าย จะมีอันเป็นไป เช่น เคยมีผู้มาขุดเอาพระพุทธรูปใต้องค์พระธาตุกลับไปบ้าน ก็เป็นไข้ชักตาย ญาติพี่น้องต้องรีบเอากลับมาคืน

การใช้ประโยชน์

วัดแห่งนี้ จะเป็นสถานที่จุดบั้งไฟ ของชาวบ้านแถบนี้ โดยชาวบ้านจะจัดงานบุญบั้งไฟ ในวันเพ็ญเดือน 6 ของทุกปี ซึ่งจะมีผู้คนเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก

ข้อมูลได้มาจาก website http://www.udonthani.com/phatatjomsri.shtml

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น